1.วันมาฆบูชา เป็นวันที่ พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป ซึ่งจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ ได้เดินทางมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ที่เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันเพ็ญกลางเดือน 3 พระจันทร์เต็มดวง)
2.วันมาฆบูชา เป็นวันที่พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูปเหล่านี้ ล้วนเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ทรงอภิญญา 6 และเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการบวชจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ซึ่งเรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
3.พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป ต่างมาประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้มีการนัดหมาย กันในวันมาฆบูชานี้
4.วันมาฆบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมเทศนา อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ "โอวาทปาติโมกข์" โอวาทปาติโมกข์ เป็นหลักคำสอนอันเป็นหลักหรือหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา ซึ่งได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม ทำจิตใจให้หมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส เป็นการปฏิบัติด้วยกาย วาจา ใจ
การประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา ในวันมาฆบูชาโดยทั่วไปจะนิยมทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา รับศีล รับพร ถวายสังฆทาน เวียนเทียนรอบอุโบสถ กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันมาฆบูชา คือ ทำบุญใส่บาตร, ปฏิบัติธรรม และฟังธรรมเทศนา, เวียนเทียนที่วัด หรือตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการจัดงาน, ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัวสืบไป
การเตรียมตัวก่อนประกอบพิธีเวียนเทียน ในวันมาฆบูชา วันขึ้น 15 ค่ำ 3
1. อาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาด ทำจิตใจให้เบิกบาน
2. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับสถานที่
3. เตรียมดอกไม้ ธูป เทียน ตลอดจนเครื่องบูชาให้เรียบร้อย
4. เมื่อถึงวัดแล้วควรอยู่ในอาการสำรวม ไม่พูดคุยหยอกล้อ วิ่งเล่น หรือทำกิจกรรมอันไม่เหมาะสม
เวียนเทียนรอบที่ 1 รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยภาวนาบท อิติปิโส ภะคะวาฯ ไปจนจบ เพื่อให้จิตใจมีสมาธิ
เวียนเทียนรอบที่ 2 รำลึกถึงคุณพระธรรม ภาวนาบทสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ ไปจนจบ
เวียนเทียนรอบที่ 3 รำลึกคุณพระสงฆ์ ภาวนาบทสุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆฯ ไปจนจบ ระหว่างนั้นต้องทำจิตใจให้สงบ แน่วแน่กับบทบูชา เมื่อเวียนเทียนครบ 3 รอบแล้ว นำดอกไม้ธูปเทียนไปวางในจุดที่กำหนด ปัจจุบัน วันมาฆบูชา เป็นวันหยุดราชการ ของประเทศไทย